คิง พาวเวอร์ ขุมพลังสู่ เลสเตอร์ ซิตี้

 

เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นสโมสรฟุตบอลเก่าแก่อีกหนึ่งสโมสรของอังกฤษเป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลกมานานแล้ว แต่กับคนไทยอาจะไม่คุ้นเคยในวงกว้างนัก รู้จักจริง ๆ ก็มีแฟนบอลเท่านั้น เลสเตอร์ ซิตี้ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1884 มีอายุกว่า 132 ปี ตั้งอยู่ในภาคมิดแลนด์ตะวันออกของ อังกฤษ ได้รับฉายาว่า “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” ในประเทศอังกฤษ จนเมื่อในปี ค.ศ.2010  กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำโดย นายวิชัย ศรีวัฒนประภา (รักศรีอักษรเดิม)  ได้เข้าซื้อกิจการทั้งหมด อย่างเป็นทางการที่โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ เมื่อบ่ายวันที่ 18 ส.ค. โดยมีเป้าหมายพาทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นพรีเมียร์ลีกให้ได้ภายใน 1 ปี และขยายความจุของสนามเป็น 32,500 ที่นั่ง พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น “คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม” (King Power Stadium) หลังจากเข้าซื้อกิจารทั้งหมด ผลงานที่ดีที่สุดเมื่อก่อนนั้น ย้อนกลับไปถึงฤดูกาล 1928-1929 เลสเตอร์เคยเป็นถึงรองแชมป์ลีก แถมยังเคยเป็นรองแชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 1949, 1961, 1963 และ 1969 ในตอนนั้นได้ลงเตะในระดับฟุตบอลลีก แชมป์เปี้ยนชิพ

 จิ้งจอกสยามไม่มีใครไม่รู้จัก

 กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ใช้เวลาเพียง 4 ปีในการกลับคืนสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จในฤดูกาล 2013 – 2014 ในฐานะแชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิป หลังจากนั้นแฟนบอลทั่วโลกมีโอกาสได้รู้จัก เลสเตอร์ ซิตี้มากขึ้นจากการแข่งขันกับทีมที่ได้ชื่อว่ามีแฟนคลับหนาแน่นอย่างลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี, อาร์เซน่อล ฯลฯ นอกจากนี้ สโมสรยังมีโครงการ “ศูนย์ฝึกอะคาเดมี่” ซึ่งถือเป็น 1 ใน 10 ศูนย์ฝึกที่ดีที่สุดในประเทศอังกฤษ และเปิดโอกาสให้นักเตะเยาวชนของไทยได้ก้าวสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้น ในฤดูกาล 2014 – 2015 จิ้งจอกสยามสร้างความฮือฮาโดยการอยู่รอดพรีเมียร์ลีก จนคนทั้งโลกตะลึงและยังสร้างปรากฏการณ์ให้โลกตะลึงอีกครั้งเมื่อ เลสเตอร์ซิตี้ สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษได้สำเร็จใน ฤดูกาล 2015 – 2016 ซึ่งความสำเร็จนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหนทุกคนคงรู้จากข่าวสารต่าง ๆ และการที่นักเตะเดินทางมาประเทศไทยจนสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยมากมาย การก้าวเข้าสู่การบริหารทีมระดับประเทศของคนไทยไม่ใช่แค่เป็นการประกาศให้โลกรู้ว่าประเทศไทยนั้นทุนหนาเพียงใด หากแต่เป็นการแสดงให้รู้ด้วยว่าศักยภาพคนไทยก็ไม่น้อยหน้า แถมยังเป็นการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้เยาวชนไทยที่จะมีโอกาสไปท้าแข้งต่างแดนเพิ่มมากขึ้น