ดิดิเย่ร์ เดอร์ช็องส์กุนซือผู้นำฝรั่งเศสไปถึงฝัน

ตอนนี้ทุกคนคงได้รู้จักทีมชาติฝรั่งเศสชุดล่าสุด ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครองได้อีกสมัยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่จริงแล้วหลายคนคงจะแทบได้มีโอกาสรู้จักสมาชิกนักเตะของทีมชุดนี้กันอย่างละเอียด โดยเฉพาะขุนพล 11 ตัวจริงไปบ่อยแล้วแน่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น อ็องตวน กรีซซ์มันน์ หรือ คีเลียน เอ็มบัปเป้ และแม้แต่ราฟาเอล วาราน กับอีกมากมาย แต่ทว่าอีกบุคคลหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อความสำเร็จของทีมชาติฝรั่งเศสชุดนี้แน่นอน จะเป็นใครไม่ได้นอกเสียจาก กุนซือตัวเล็ก ๆ แต่ความสามารถไม่เล็ก ที่รับผิดชอบการเล่นทั้งหมดของนักเตะ ที่มีชื่อว่า เดอร์ช็องส์ นั่นเอง วันนี้คงจะดีถ้าเราจะได้มีโอกาสมาทำความรู้จักเค้ามากขึ้น ว่าอะไรและทำไมเค้าถึงทำให้ฝรั่งเศสคว้าแชมป์โลกได้ ให้เราคำตอบกันไปเลย

กุนซือประวัติศาสตร์

นับว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ เดอร์ช็องส์ ได้กลายมาเป็นมนุษย์คนที่ 3 ของโลกที่สามารถประสบความสำเร็จคว้าแชมป์โลกได้ในช่วงชีวิตตัวเอง ทั้งในฐานะนักเตะ ซึ่งเค้าเคยทำได้ไปแล้วในฐานะกัปตันทีมชุดแชมป์ปี 1998 และในฐานะกุนซือมันสมองข้างสนามในปีนี้ 2018 ด้วย  ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพียง 2 คนที่ทำได้คือ มาริโอ ซากัลโล ชาวบราซิล และฟรานซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ จากเยอรมนีนั่นเอง นี่หมายความว่าการที่เค้ามีประสบการณ์ในฐานะนักเตะที่เคยเล่นให้กับสโมสรดัง รวมถึงช่วงเวลาที่กดดันและความยากลำบากในการเล่นทีมชาติยิ่งในฟุตบอลโลก แน่นอนว่าช่วยเพิ่มพูนความคิด ลูกเล่น และวิธีการสอนและกระตุ้นนักเตะในการแข่งขันบอลโลกนี้แน่นอน ที่จริงน่าจะเป็นสิ่งล้ำค่าที่หาเปรียบไม่ได้ซึ่งโค้ชคนอื่นในการแข่งขันปีนี้ไม่มีใครมีเลย

ประสบการณ์ด้านการเล่น

เมื่อตอนที่เดอร์ช็องส์เป็นนักเตะนั้น เค้าเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวตัดเกม หรือ มิดฟิลด์ตัวรับ ที่ยืนอยู่หน้าแผงหลัง และก็ทำหน้าที่ป้องกัน ตัดเกม เข้าปะทะ แย่งบอลเพื่อคุ้มกันกองหลังเป็นเหมือนหน้าด่านชั้นแรกให้กับแผงหลังเสมอ  การเล่นแบบนี้เคยถูก ตำนานผีแดงอย่าง อีริก คันโตน่า เรียกว่า เด็กยกน้ำ แต่ฉายานี้เป็นคำชมเชยแน่นอนเพราะว่า เค้าเล่นแบบนี้จนทำให้ได้แชมป์กับสโมสรมากมายและแชมป์โลกด้วย ดังนั้นเมื่อมาเป็นกุนซือในปีนี้ เดอร์ช็องส์ เลือกใช้แผนเดิมคือมีกองกลางตัวรับชนิดเดียวกับเค้าให้ทำหน้าที่นี้ และคน ๆ นั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก นักเตะผู้ปิดทองหลังพระ และสุดยอดกองกลางตัวรับที่ ทุกคนต่างสรรเสริญหลังการแข่งขันอย่าง เอ็นโกโล่  ก็องเต้ ที่ทำงานอย่างหนักและเล่นคล้ายกันมากกับกุนซือของเค้านั่นเอง

เราเห็นแล้วว่าทั้งประสบการณ์ และ มันสมองด้านการเล่นฟุตบอลกับการวางแผนและวางตัวนักเตะ เดอร์ช็องส์ คนนี้เหมาะสมด้วยทุกประการในการเป็นกุนซือแชมป์โลก