ดีเอโก้ มาราโดน่า รอยจารึกแห่งตำนานที่จะไม่มีวันลบเลือน

นับว่าเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับวงการฟุตบอล สำหรับการได้รับข่าวร้ายว่าอดีตนักเตะผู้มีฉายาว่า “เสือเตี้ย” หรือดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานนักเตะสัญชาติอาร์เจนติน่านั้นได้เสียชีวิตไปอย่างกะทันหันที่บ้านเกิด โดยที่เขามีอายุได้เพียงแค่ 60 ปีเท่านั้นเอง ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตก็คืออาการหัวใจวายเฉียบพลันนั่นเอง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นมีข่าวออกมาอยู่เรื่อย ๆ ว่าตำนานกองหน้าผู้นี้มีปัญหาสุขภาพอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งมันมาจากการที่เขาปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนอ้วนพลุ้ย รวมไปถึงการใช้สารเสพย์ติดและแอลกอฮอล์หลังจากการเลิกเล่นฟุตบอลไปนั่นเอง ซึ่งความอ้วนของเขานั้นก็ถึงขั้นทำให้ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดเลยทีเดียว และเมื่อไม่นานมานี้เขาก็พึ่งจะเข้ารับการผ่าตัดลิ่มเลือดในสมองอีกด้วย แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะจากไปในเวลาอันรวดเร็วเช่นนี้

เรื่องราวบนเส้นทางลูกหนังของของดีเอโก้ มาราโดน่านั้นเป็นที่รู้จักของแฟนฟุตบอลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในยุครุ่งเรืองของเขานั้น กองหน้าร่างเล็กคนนี้มีความเก่งกาจชนิดที่เรียกว่าไร้เทียมทานเลยทีเดียว โดยเขาเริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมในบ้านเกิดอย่างอาร์เจนติโนส จูเนียร์ส ก่อนจะย้ายมาอยู่กับทีมยักษ์ใหญ่ของอาร์เจนติน่าอย่างโบค่า จูเนียร์ส และหลังจากได้แชมป์ลีกภายในประเทศกับโบค่าเมื่อปี 1981 แล้ว เขาก็กลายมาเป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลกมากขึ้นหลังย้ายมาเล่นในลาลีกา สเปน กับยอดทีมอย่างบาร์เซโลน่า แต่เขาก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนักที่สเปนเพราะโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานจนถึงขั้นขาหัก ก่อนที่จะเป็นทางนาโปลีที่ยอมทุ่มเงินเป็นสถิติโลกในขณะนั้นเพื่อดึงตัวเขาไปร่วมทีม ซึ่งมันก็คุ้มยิ่งกว่าคุ้มเพราะในเวลาต่อมาเขาสามารถสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นพระเจ้าของชาวเนเปิ้ลเลยทีเดียว

เพราะที่นาโปลีนั้นมาราโดน่าระเบิดฟอร์มสุดยอดของเขาออกมาได้อีกครั้ง และสามารถทำให้ทีมเล็กอย่างนาโปลีนั้นกลายเป็นทีมที่มีเกมบุกที่น่าตื่นเต้นและสวยงาม ท่ามกลางบอลแบบตีหัวเข้าบ้านอันเป็นสไตล์การเล่นที่น่าเบื่อของสโมสรในอิตาลียุคนั้น และเขาก็ใช้เวลาเพียงแค่สองปีหลังจากย้ายเข้ามาพาทีมเป็นแชมป์สคูเด็ตโต้ได้สำเร็จ รวมเบ็ดเสร็จแล้วที่นาโปลีเขาสามารถพาทีมได้แชมป์ลีก 2 สมัย กับยูฟ่าคัพอีกหนึ่งสมัย ซึ่งถ้าจะถามว่ามันยิ่งใหญ่มากเพียงใดสำหรับชาวเมือง ก็คงอธิบายได้ง่าย ๆ ว่า มันคือแชมป์ที่พวกเขาไม่เคยไปถึงมาก่อน และจำนวนมันก็ยังคงอยู่เท่าเดิมไม่สามารถมีใครทำได้เพิ่มเลยนับตั้งแต่มาราโดน่าทำไว้นั่นเอง

ส่วนเกียรติประวัติในนามทีมชาตินั้นก็ไม่ต้องพูดถึง สำหรับการพาทีมชาติขึ้นสู่ตำแหน่งแชมป์โลกสมัยที่สองในประวัติศาสตร์ได้นั้นมันก็ทำให้เขากลายเป็นพระเจ้าของแฟนบอลฟ้าขาวเรียบร้อยแล้ว และผู้คนยังคงจดจำแชมป์โลกของเขาในครั้งนั้นที่ถูกพูดถึงทั้งในเรื่องของหัตถ์พระเจ้า รวมไปถึงการลากลบผู้เล่นอังกฤษสี่ห้าคนเข้าไปทำประตูอีกด้วย

ชายผู้นี้ถือว่าเป็นตำนานอย่างแท้จริงที่ถึงแม้ว่าผู้เล่นอย่างลีโอเนล เมสซี่ที่เป็นผู้เล่นระดับโลกในยุคนี้และเป็นขวัญใจของชาวอาร์เจนติน่าเหมือนกัน ก็ยังคงไม่สามารถขึ้นไปทาบรัศมีของเขาได้ และถึงแม้ว่าโลกแห่งฟุตบอลจะสูญเสียเขาไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ แต่โลกแห่งฟุตบอลจะยังคงจารึกชื่อของเขาในฐานะตำนานตลอดไป