โม ซาลาห์ ราชาแห่งอียิปต์ผู้ทำลายกฏเล่นดีซีซั่นเดียวของแข้งอียิปต์

ฤดูกาลที่แล้วในพรีเมียร์ลีกของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าของลิเวอร์พูลจบลงแบบน่าเหลือเชื่อ ผลงานการยิงประตูทำลายสถิติจากสถิติหนึ่งไปอีกสถิติหนึ่ง ตลอดทั้งซีซั่น ทำให้เขาได้รับรางวัลมากมายทั้งระดับสโมสร ระดับพรีเมียร์ลีกและระดับทวีป แต่มันมาพร้อมข้อสงสัยว่าเขาจะรักษาความร้อนแรงเหมือนฤดูกาลที่แล้วได้แค่ไหน?

ต้นฤดูกาล 2018/2019 โมฮาเหม็ด ซาลาห์กลับมาแบบคนยังไม่หายบาดเจ็บ เขาและสามประสานแดนหน้าของลิเวอร์พูลทำผลงานได้ไม่ร้อนแรงเหมือนเดิมเมื่อทีมให้ความสำคัญกับเกมรับเป็นพื้นฐาน การสร้างสรรค์เกมรุกเกิดขึ้นหลังจากกองหลังแน่นก่อน มันดูเหมือนโม ซาลาห์ฟอร์มดร็อปลง แต่ที่จริงสถิติในการยิงประตูของฤดูกาล 2017/2018 ช่วงต้นเขาก็ยิงไม่ค่อยได้เหมือนอย่างต้นซีซั่นนี้นั่นแหละ

เหตุผลส่วนหนึ่งที่โมฮาเหม็ด ซาลาห์ถูกสบประมาทว่าจะเป็นพวกทำดีซีซั่นเดียว ก็เพราะบรรดาแข้งรุ่นพี่ร่วมเชื้อชาติเคยทำดีแค่ซีซั่นเดียวไว้เป็นรอยบาป

ในฤดูกาล 2005/2006 อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด้ถูกมาร์ติน โยล ผู้จัดการทีมสเปอร์ดึงตัวจากโรม่ามาเล่นที่ไวท์ ฮาร์ตเลน ผลงานจองมิโด้ทั้งฤดูกาลสวยหรูไม่น้อย เมื่อเขาลงเล่นไป 36 เกมและยิงให้สเปอร์ไป 13 ลูก เป็นรองดาวซัลโวของสโมสร พบจบฤดูกาลสเปอร์ประทับใจมากเสียจนต้องขอซื้อขาดในราคา 6.75 ล้านปอนด์ ตอนที่กลับมาชูเสื้อที่สโมสรอีกครั้งมิโด้ให้คำมั่นสัญญาว่าเขาจะยิงให้มากกว่าเดิมอีก แต่ปรากฏว่าการลงเล่น 12 เกมทั้งฤดูกาล มิโด้มีประตูที่ยิงได้เพียง 1 ลูกเท่านั้น

สเปอร์พร้อมขายขาดทุนที่ราคา 6 ล้านปอนด์ มีเบอร์มิงแฮม, ซันเดอร์แลนด์และมิดเดิ้ลสโบรห์ที่อยากได้ สิงห์แดงแห่งอีสานเป็นทีมที่คุยสัญญาส่วนตัวกับดาวเตะอียิปต์ได้ ทว่าในการเล่นให้มิดเดิ้ลสโบรห์ก็ออกมาแย่ 25 นัดกับผลงาน 6 ประตู ในฤดูกาล 2007/2008 และช่วงแรกของฤดูกาล 2008/2009 ทำให้สโมสรต้องหากองหน้ารายอื่นและปล่อยมิโด้ให้วีแกนยืม ตามด้วยซามาเล็กทีมเก่าของเขาในอียิปต์ และเวสต์แฮมก็ยืมต่อมาลองใช้งาน ก่อนปิดท้ายด้วยอาแจ็กซ์อีกสโมสรเก่าของเขา ปรากฏว่าการเล่นให้ทั้ง 4 สโมสรที่ว่า มิโด้ยิงประตูรวม 5 ลูกจากเวลาลงสนาม 2 ปี และไม่เคยกลับมายิงได้เยอะอีกเลยจนแขวนสตั๊ดไปแบบเงียบ ๆ

ในปี 2007/2008 ที่มิโด้ฟอร์มตกกับการเล่นให้มิดเดิ้ลสโบรห์ ชื่อเสียงของอามีร์ ซากี้ กองหน้าของซามาเล็กเข้าหูเข้าตาวีแกน ทำให้พวกเขาไม่รอช้าที่จะดึงซากี้มาเล่นที่อังกฤษด้วยสัญญายืมตัว ผลงาน 29 นัดกับ 10 ประตูไม่ถือว่าแย่เพราะเคยขึ้นไปเบียดลุ้นดาวซัลโวแข่งกับนิโคล่า อเนลก้ากับโรบินโญ่มาแล้ว ทว่าหลังเกมรับใช้ทีมชาติอียิปต์ในคัดเลือกฟุตบอลโลก ซากี้ไม่ยอมกลับไปรายงานตัวที่วีแกนทำให้สตีฟ บรูซโมโหมากะตัดเขาออกจากทีม หลังจากระหกระเหินเล่นให้ฮัลล์ซิตี้ และอีกหลายทีมในคูเวต เลบานอน โมร็อกโกและอีบิปต์ ระหว่างปี 2010-2015 ซากี้แทบไม่ได้ลงเล่นเลย โดยมีเกมทางการแค่ 25 เกมกับผลงานจุ๋มจิ๋ม 3 ประตู

ทุกครั้งที่มีการพูดถึงนักเตะสุดฮอตฤดูกาลเดียวของพรีเมียร์ลีก จะต้องมีชื่อของสองคนนี้ติดมาเสมอ นั่นทำให้หลายคนคิดว่าโมฮาเหม็ด ซาลาห์ก็คงไม่แคล้วทำนองเดียวกัน แต่นั่นคือการคาดเดาผิด เพราะซาลาห์ค่อย ๆ คืนฟอร์มเพชรฆาตกลับมาอย่างช้า ๆ แม้จะถูกประกบติดหนักกว่าเดิม

เหตุผลส่วนหนึ่งที่ซาลาห์เรียกคืนความน่ากลัวกลับมาได้ เป็นเพราะแนวทางการเล่นของทีมชัดเจน ที่สำคัญฤดกาลนี้ซาลาห์ลงเล่นในตำแหน่งที่หมุนเวียนกันเป็นวงกลมของสามประสานฤดูกาลที่แล้ว ไม่ได้อยู่ทางด้านกว้างหรือปีกเหมือนเก่า หากแต่หลายเกมยังมายืนเป็นหน้าเป้าด้วยซ้ำ นั่นแปลว่าเขาไม่ได้เก่งน้อยลงแต่เก่งขึ้นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก