Tag Archives: กองหลัง

ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ กองหลังดาวรุ่งเมืองน้ำหอม ที่กำลังเนื้อหอมในเวลานี้

เมื่อดูจากสถานการณ์ของโลกฟุตบอลในยุคนิวนอร์มอล ที่ถึงแม้ว่าฟุตบอลรายการใหญ่ต่าง ๆ จะสามารถกลับมาทำการแข่งขันกันได้อีกครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่บรรดาทีมน้อยใหญ่ต่าง ๆ มักจะประสบพบเจอก็คือปัญหาอาการบาดเจ็บนั่นเอง และดูเหมือนว่าเจ้าอาการบาดเจ็บของผู้เล่นในทีมยักษ์ใหญ่ทั้งหลายมากกว่าทีมเล็ก ๆ อีกด้วย และสิ่งหนึ่งที่เป็นผลจากการมีผู้เล่นบาดเจ็บนั้นก็คือ มันยิ่งดูจะเป็นการยากมากขึ้นไปอีกสำหรับอาร์บี ไลป์ซิกที่จะรั้งกองหลังเนื้อหอมอย่าง ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ไว้กับทีมต่อไป

เมื่อช่วงตลาดนักเตะหน้าร้อนที่ผ่านมาชื่อของดาโยต์ อูปาเมกาโน่นั้น ตกเป็นข่าวกับทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปมากมายหลายทีม โดยเฉพาะกับทีมจากทางฟากฝั่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่มีทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ซิตี้, สเปอร์ส และอาร์เซน่อล แต่ก็ยังไม่มีทีมใดที่จะชิงลงมือตัดหน้าคู่แข็งคว้าตัวเขามาร่วมทีมแต่อย่างใด ซึ่งเหตุผลหนึ่งก็คือการที่รอคอยให้สัญญาของกองหลังเลือดน้ำหอมรายนี้ใกล้ที่จะหมดลงน่าจะทำให้ค่าตัวที่ต้องจ่ายน้อยลงไปอีกมากนั่นเอง

แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ในปัจจุบันซึ่งดูเหมือนว่ามีหลายทีมที่ไม่สามารถจะรอต่อไปได้อีกแล้ว โดยเฉพาะทีมที่ได้รับผลกระทบจากอาการบาดเจ็บของผู้เล่นในแนวรับอย่างลิเวอร์พูลที่มีรายชื่อนักเตะเจ็บยาวเป็นหางว่าว โดยเฉพาะการพักยาวของสองกองหลังคนสำคัญอย่างเฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ และโจ โกเมซ ซึ่งทำให้เจอร์เกน คล็อปจะต้องรีบอุดช่องว่างดังกล่าวโดยเร็วที่สุด และอูปาเมกาโน่ก็น่าจะอยู่ในรายชื่ออันดับแรก ๆ ในใจของกุนซือหงส์แดงเช่นกัน

นอกจากหงส์แดงแล้ว อีกทีมหนึ่งที่ต้องรีบแก้ปัญหาหลังบ้านเช่นกันก็คือ เจ้าบุญทุ่มแห่งสเปน หรือบาร์เซโลน่านั่นเอง ที่พวกเขาพึ่งจะเสียกองหลังคนสำคัญอย่างเคราร์ด ปีเก้ที่ต้องพักยาวตามซามูเอล อุมติตี้ กองหลังตัวเก่งที่เจ็บไปก่อนแล้ว ซึ่งกองหลังที่เหลืออยู่นั้นแทบจะทดแทนการหายไปครั้งนี้ของปีเก้ได้เลย และด้วยความที่ปีเก้ก็อายุมากแล้วดังนั้นการดึงตัวอูปาเมกาโน่เข้ามา นอกจากจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้วยังน่าจะเป็นการทดแทนได้ในระยะยาวอีกด้วย

นี่คือสองทีมยักษ์ใหญ่ที่เจอกับปัญหาที่อาจจะทำให้ต้องการตัวเขาไปร่วมทีมโดยด่วน ส่วนทีมอื่นที่เหลืออย่างแมนยูที่กองหลังยังไม่มีใครที่ไว้ใจได้เลย หรือแมนซิตี้, อาร์เซน่อล, สเปอร์ส รวมไปถึงมหาอำนาจแห่งเมืองเบียร์อย่างบาเยิร์นเองก็คงไม่ยอมให้เพชรเม็ดงามนี้ตกไปอยู่ในมือของคู่แข่ง ทั้งทางตรงและทางอ้อมง่าย ๆ เช่นกัน ดังนั้นในช่วงตลาดหน้าหนาวที่กำลังจะถึงนี้ รับรองได้เลยว่าไลป์ซิกนั้นต้องเจอสถานการณ์ลำบากแน่ในการที่จะรั้งตัวเขาไว้กับทีม เพราะบรรดาเสือหิวโซทั้งหลายต่างจ้องจะตะครุบเข้ามาจากทุกทิศทุกทางเลยทีเดียว

จตุรเทพปราการหลังแห่งฤดูกาล 2018/2019

“ศักยภาพในเกมรุกของทีมจะเป็นจุดชี้วัดชัยชนะ แต่ศักยภาพในเกมรับจะส่งผลให้คุณเป็นแชมป์” นี่คือคำกล่าวของบรมกุนซือผู้สร้างตำนานความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ให้แก่สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในตำแหน่งปราการหลังของทีม ที่ถือเป็นรากฐานสำคัญในการนำพาทีมฟุตบอลทีมหนึ่งประสบความสำเร็จในโลกของฟุตบอล

และในเวลานี้ การแข่งขันฤดูกาล 2018/2019 ได้ดำเนินมาจนใกล้จะถึงปลายทางแล้ว แต่ละสโมสรต่างกำอาวุธที่มีห้ำหั่นใส่กันอย่างดุเดือด แน่นอนว่าสิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือเหล่าบรรดากองหลังที่จะคอยปกป้องไม่ให้ประตูที่ทีมสามารถทำได้ กลายเป็นไร้ความหมายเมื่อโดนทะลวงป้อมปราการเข้ามาทำประตูพลิกแซงไปคว้าชัยชนะในภายหลัง

แล้วมีนักเตะตำแหน่งกองหลังรายใดบาง ที่ทำผลงานอย่างโดดเด่นที่สุดในฤดูกาลนี้

อายเมริค ลาปอร์เต้ปราการหลังชาวฝรั่งเศสของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือเป็นหนึ่งในกองหลังตัวหลักภายใต้การนำทัพของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โดยตลอดการลงเล่นในฤดูกาล 2018/2019 ลาปอร์เต้ ถือเป็นหนึ่งในกองหลังรูปแบบสมัยใหม่ ที่นอกจากจะต้องมีการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่นแล้วนั้น ยังต้องมีการวางบอลทำเกมจากแนวหลังได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีสถิติการผ่านบอลสำเร็จอยู่ที่ 92 เปอร์เซ็นต์ แบ่งเป็นการผ่านบอลเฉลี่ยต่อเกมอยู่ที่ 85.6 ครั้ง ผ่านบอลยาวเฉลี่ย 5 ครั้งต่อเกม และเคลียร์บอลอันตรายเฉลี่ยต่อเกมอยู่ที่ 2.6 ครั้ง

จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลังวัยเก๋าสายพันธุ์ดุของสโมสร ยูเวนตุส ที่ถึงแม้จะอยู่ในวัยที่ล่วงเลยถึง 34 ปี แล้ว แต่ด้วยฝีมือและประสบการณ์ทำให้ยังยึดตำแหน่งแผงหลังตัวหลัก และสร้างผลงานให้กับสโมสรได้ยอดเยี่ยมไม่ต่างจากเดิม ด้วยผลงานการยืนคุมตำแหน่งและความนิ่งที่สร้างความมั่นคงในแดนหลังให้กับทีม พร้อมสถิติการเคลียร์บอลอันตรายหน้ากรอบเขตโทษเฉลี่ยถึง 3.4 ครั้งต่อเกม และชนะการดวลกลางอากาศเฉลี่ยต่อเกม 2.2 ครั้ง ทำให้ยังคงยึดตำแหน่งกองหลังอันดับต้น ๆ ของโลกได้เรื่อยมา

คาลิดู คูลิบาลี่ปราการหลังร่างยักษ์แห่งทัพนาโปลี ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการพาสโมสรท้าทายขั้วอำนาจใหญ่ในปัจจุบันของสโมสรในอิตาลีอย่าง ยูเวนตุส ด้วยความเร็วและการยืนปักหลักในแดนหลังอย่างมั่นคง บวกกับสถิติการเข้าสกัดสำเร็จเฉลี่ยถึง
 2 ครั้งต่อเกม แย่งบอลจากคู่แข่งสำเร็จ 1.2 ครั้งต่อเกม บล็อกลูกยิงคู่แข่งเฉลี่ย 1 ครั้งต่อเกม และมีสถิติการชนะการดวลลูกกลางอากาศเฉลี่ยต่อเกมสูงถึง 2.4 ครั้ง ทำให้ คาลิดู คูลิบาลี่ เป็นหนึ่งในกองหลังอันดับต้น ๆ ของโลก และได้รับความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป และหนึ่งในนั้นคือสโมสรอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สุดท้ายคือ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ สุดยอดปราการหลังของสโมสร ลิเวอร์พูล ที่ได้รับคำชื่นชมมากมายจากเหล่าผู้จัดการทีม นักวิเคราะห์ และอดีตนักเตะชั้นนำทั่วโลก ด้วยความดุดันและครบเครื่องมากที่สุดเท่าที่นักเตะกองหลังควรจะมี ทำให้จากสถิติการลงเล่นตลอดฤดูกาล 2018/2019 ฟานไดค์มีสถิติการเคลียร์บอลอันตรายหน้ากรอบเขตโทษสูงถึง 5.3 ครั้งต่อเกม ชนะดวลกลางอากาศ 4.7 ครั้งต่อเกม จ่ายบอลยาวเฉลี่ยต่อเกม 5.7 ครั้ง และผ่านบอลสำเร็จคิดเป็นเปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 89.6 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่น่าแปลกใจที่เจ้าตัวจะได้รับการขนานนามจากเหล่านักวิจารณ์และแฟนบอลจำนวนมากว่าเป็น ว่าที่กองหลังอันดับหนึ่งของโลก ในปัจจุบัน