Tag Archives: แท็กติก

จากสูตรโบราณสู่แผนการเล่นสมัยใหม่

ในการลงสนามด้วยกติกาฟุตบอลเล่นกันฝั่งละ 11 คน เราอาจจะคุ้นชินกับการจัดแผนการเล่นต่าง ๆ ซึ่งบางแผนเหมาะแก่การเล่นเกมรุก เช่น 3-5-2 บางแผนเหมาะสำหรับเกมรับ เช่น 5-3-2 และบางแผนก็บาลานซ์ระหว่างเกมรุกและเกมรับ เช่น 4-4-2 ไดมอนด์ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ขึ้นอยู่กับผู้จัดการทีมหรือโค้ชต้องการให้เกมออกมาเป็นอย่างไร ทว่าหากย้อนกลับไปในสมัยฟุตบอลยังตั้งไข่ แผนการเล่นเหล่านี้ไม่มีใครเขาใช้กันหรอก เพราะสมัยนั้นสูตรที่นิยมที่สุดคือ 1-1-8

ย้อนกลับไปในช่วงก่อนทศวรรษ 1860s ไม่มีทีมฟุตบอลทีมไหนที่สนใจเรื่องเกมรับ ในเมื่อพวกเขามองว่าการยิงได้มากกว่าคู่แข่งก็เพียงพอแล้ว นั่นจึงเป็นสาเหตุให้แผนการเล่นสุดโต่งสำหรับทุกวันนี้อย่างสูตร 1-1-8 เป็นที่นิยมเล่นมาก ไม่ต้องสนใจการเลี้ยงบอล ไม่ต้องสนใจการประกบตัว ทุกทีมคงมุ่งเน้นการมีกองหน้าเยอะเข้าไว้ และยิงประตูให้ได้มากกว่าคู่แข่งก็พอ ด้วยกติกาสมัยนั้นมีข้อแตกต่างสำคัญที่ปัจจุบันเราเล่นสูตรนี้ได้ยากเพราะมันไม่มีการล้ำหน้า

กฏล้ำหน้าเริ่มขึ้นที่อังกฤษในปี 1863 ซึ่งทำให้แผนการส่งผู้เล่น 8 คนเข้าไปออกันที่หน้าประตูยากขึ้น  สูตรการเล่นจึงเริ่มปรับมาเป็น 1-2-7 และ 2-2-6 บ้าง พร้อมกันนั้นเทคนิคการเลี้ยงบอลและวางบอลยาวก็เริ่มปรากฎให้เห็น อังกฤษและสก็อตแลนด์เข้าสู่ยุคเลี้ยงตะลุยให้ลึกที่สุด ประมาณช่วงเข้าทศวรรษ 1890s แท็กติกอย่าง 2-3-5 กลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย มันมีบาลานซ์มากขึ้นในเกมรับกับเกมรุก ความนิยมนี้ชัดเจนถึงขนาดที่ว่าทีมที่เข้าร่วมฟุตบอลโลก 1930 ครั้งแรกทั้งหมดใช้แผนการเล่นนี้

แล้วแผนการเล่นที่แตกต่างก็ปรากฎขึ้นบนเกาะอังกฤษ เมื่อเกรแฮม แชปแมน ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อลจัดผู้เล่นลงสนามในระบบ 3-2 และ 2-3 โดยผู้เล่นเกมรับ 5 คนยืนเป็นรูปตัวเอ็มหน้าประตูตัวเอง และเกมรุก 5 คนยืนเป็นรูปตัวดับเบิ้ลยูหน้าประตูคู่แข่ง แผนนี้ถูกเรียกว่า W-M Formation

การเปลี่ยนแปลงกฎล้ำหน้าในปี 1925 ไม่เพียงทำให้เกิดสูตร W-M แต่มันทำให้เกิดสูตรการเล่น 3-2-5 ที่ให้ความสำคัญกับกองหลังมากขึ้น และสูตร 3-4-3 ที่ดึงผู้เล่นแนวรุกลงมาขึ้นเกมจากกลางสนามในบทบาทของปีกมากกว่าเดิม รวมไปถึงสูตรการเล่นแบบ 2-3-2-3 ที่อิตาลีใช้เล่นแล้วคว้าแชมป์เวิลด์ คัพ 1934 และ 1938 ขณะที่ทีมจากอีกฟากโลกอย่างบราซิลกำลังเริ่มต้นแผนการเล่น 4-2-4 ซึ่งพวกเขาใช้เล่นแล้วคว้าแชมป์โลก 1958

อังกฤษเริ่มพัฒนาการเล่นสูตรใหม่หลังปี 1960 ซึ่งมันช่วยให้พวกเขาคว้าแชมป์โลกในบ้านด้วยแผนการเล่น 4-3-3 ซึ่งบางครั้งปรับไปเป็น 4-1-3-2 ในระหว่างเกม เป็นครั้งแรกที่โลกเห็นความยึดหยุ่นในแผนการเล่น ไม่ได้ตายตัวเหมือนเก่าแล้ว

หลังอังกฤษเป็นแชมป์โลก แผนการเล่นฟุตบอลที่ใช้กองหน้าเยอะถูกแทนที่ด้วยการเล่นที่ให้ความสำคัญกับเกมรับ สูตรการเล่นอย่าง 5-4-1 ถูกใช้งานโดยอินเตอร์ มิลานและทีมชาติอิตาลี พวกเขากลับมาเป็นแชมป์โลกอีกครั้งในปี 1970 ส่วนสวีเดนและสองทีมชั้นนำในประเทศทั้งโกเต็นเบิร์กและมัลโมเริ่มใช้แผนการเล่น 4-4-2 ซึ่งแผนนี้กลายเป็นพิมพ์นิยมไปทั่วโลกในเวลาต่อมา

พัฒนาการของแผนการเล่นถูกปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ผู้จัดการทีมและโค้ชไปหาแนวทางในการเล่นเพื่อให้ทีมได้รับชัยชนะ จนเกิดเป็นสูตรต่าง ๆ มากมาย และยังคงจะต้องเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตราบที่แต่ละคนคิดแผนการเล่นที่แตกต่างไปขึ้นมาเพื่อเอาชนะแผนการเล่นที่ประสบความสำเร็จของอีกคน