Tag Archives: แลมพาร์ด

คืนวันที่ผันเปลี่ยนของสโมสรเชลซี จากจุดสูงสุดที่ต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

สโมสรเงินถุงเงินถังอย่างเชลซีจัดเป็นทีมประเภทอยากได้ใครก็ต้องได้ นับตั้งแต่โรมัน อับราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรสำเร็จมหาเศรษฐีแห่งดินแดนหมีขาวก็ร่ายเวทย์มนต์ด้วยเม็ดเงินของเขาบันดาลความสำเร็จมาสู่เชลซีอย่างยิ่งใหญ่ จากทีมระดับกลางของพรีเมียร์ลีกกลับกลายเป็นทีมหัวแถวที่ลุ้นแชมป์ทุกฤดูกาล ทีมสิงโตน้ำเงินครามจึงเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ด้วยหลักฐานอย่างถ้วยรางวัลการแข่งขันทุกรายการทั้งในประเทศและระดับทวีปยุโรป  

อับราโมวิชผู้พาเชลซีก้าวมาไกลเกินฝัน ทุกสิ่งเป็นจริงได้เพียงปลายนิ้วสั่ง

นับตั้งแต่ปี 2004 ที่อับราโมวิชได้เข้ามาถืออำนาจเบ็ดเสร็จในสโมสร เขาจัดการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างแทบจะทันทีทันใด ด้วยนิสัยของนักธุรกิจระดับมหาเศรษฐีที่กล้าทุ่มกล้าเสี่ยง นับตั้งแต่การดึงโชเซ มูรินโญ ยอดกุนซือฟอร์มร้อนในขณะนั้น รวมทั้งการกว้านซื้อนักเตะระดับสตาร์อีกหลายรายโดยไม่สนใจรายจ่ายที่เสียไปว่าจะคุ้มค่าหรือไม่ และนั่นถือเป็นความเสี่ยงที่คุ้มสุดคุ้มดังที่เห็นในทุกวันนี้ เชลซีสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรก และอีกหลายครั้งตามมา รวมทั้งถ้วยใหญ่สุดของทวีปยุโรป ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ก็ยังสามารถนำมาประดับตู้โชว์ได้เป็นผลสำเร็จ การลงทุนแบบบ้าคลั่งของอับราโมวิชจึงน่าจะคุ้มค่าตอบสนองความต้องการของเขาได้ทุกเพนนีเลยทีเดียว

การสร้างสโมสรของอับราโมวิชเป็นแบบตรงไปตรงมา ตัวเองอยากได้นักเตะคนไหนก็จะเข้าแทรกแซงการซื้อขายโดยไม่สนใจโค้ชหรือรูปแบบวิธีการที่เหมาะสม และนี่จึงเป็นจุดหนึ่งที่เชลซีมักมีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง ฤดูกาล 2018/2019 เป็นเพียงฤดูกาลเดียวที่เมาริซิโอ ซาร์รี ได้ทำหน้าที่ผู้จัดการทีม ด้วยผลงานของสโมสรที่ไม่เข้าตาแม้คว้าแชมป์ถ้วยรองเวทียุโรปมาครองก็สั่งฟ้าผ่าปลดกันแบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องให้เวลาแก้ตัวทั้งที่เพิ่งให้เวลาทำงานไปเพียงหนึ่งฤดูกาลเท่านั้น และกุนซือผู้รับชิ้นเผือกร้อนคนล่าสุดอย่างแฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้เป็นตำนานของเชลซีครั้งยังเป็นนักเตะแต่ยังถือว่าใหม่สำหรับงานกุนซือ เขาจะสามารถพาทีมกลับสู่เส้นทางความสำเร็จที่เข้าตาผู้เป็นเจ้าของสโมสรได้มากน้อยแค่ไหนจึงเป็นประเด็นที่หลายคนตั้งคำถาม

แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้กอบกู้ศรัทธาเชลซี ภายใต้ข้อจำกัดที่ยากเกินบรรยาย

เชลซีมักซื้อนักเตะบิ๊กเนมที่พร้อมใช้ได้เลยทันทีเพื่ออุดรอยรั่วในตำแหน่งต่าง ๆ ให้กับทีม แม้ต้องใช้เงินมากแต่ก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจเสมอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจนเป็นเรื่องปกติเช่นว่าจะไม่เกิดขึ้นกับทัพสิงโตน้ำเงินครามในฤดูกาล 2019/2020 จากกรณีถูกแบนตามกฎ Protection of Minors ที่เกี่ยวกับการทำผิดกฎการซื้อขายนักเตะเยาวชน และแน่นอนว่าหากสภาพของทีมก่อนปลดซาร์รีนั้นไม่ได้ฉายแววทีมที่มีลุ้นแชมป์รายการใหญ่ฉันใด การเริ่มต้นของแลมพาร์ดในฤดูกาลใหม่ที่ไม่สามารถเสริมนักเตะใหม่ได้ตามต้องการก็คงไม่ต่างกันฉันนั้น อักทั้งการที่ทีมต้องเสียเอเดน อาร์ซาร์ หัวใจเกมรุกของทีมก็ยิ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายที่สุดสำหรับแลมพาร์ด

การทำสัญญาซื้อขายกันล่วงหน้าในดีลคริสเตียน พูลิซิซ จึงเป็นเพียงความหวังเดียวที่อาจพอลุ้นให้เขาสร้างคุณภาพให้กับทีมได้ใกล้เคียงกับที่อาร์ซาร์เคยทำไว้ สิ่งที่แลมพาร์ดจะพอทำได้อีกเรื่องนั่นคือการผลักดันนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดี เช่น เมสัน เมาท์ และ แทมมี่ อับราฮัม ซึ่งก็พอเห็นแววฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมอยู่ไม่น้อย เวลาของแลมพาร์ดในการสร้างเชลซีขึ้นใหม่จะยาวนานแค่ไหนผลงานในสนามจะเป็นคำตอบ และคนที่ตัดสินชี้ขาดคงไม่พ้นอับราโมวิชคนเดิม