สโมสรแมนฯยูฯ หรือที่ทุกคนรู้จักในนามของปีศาจแดง เคยเป็นสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 8 ปีติดต่อกัน เพิ่งจะเสียแชมป์ให้กับ รีล มาดริดและบาเซโลน่าไป  วัดจากมูลค่าสโมสรมีมาถึง 1,453 เหรียญสหรัฐ หรือ 4.6 หมื่นล้านบาท คงไม่ปฏิเสธว่าสโมสรแมนฯยูฯ นั้นรวยแบบก้าวกระโดดเอามาก ๆ เริ่มเมื่อ 17 ปีก่อน เปิดฉากด้วยการนำสโมสรเข้าตลาดหุ้นเป็นแห่งแรกในอังกฤษในปี 1991 ทำให้สามารถระดมทุนได้มากเลยทีเดียว ด้วยความคิดอันชาญฉลาดมาถูกที่ถูกเวลา แถมยังมองเห็นอนาคตทำให้สโมสรแมนฯยูฯ สามารถแตกไลน์ธุรกิจอื่น ๆ ที่ใช้ประโยชน์จากแบรนด์ปีศาจแดงหรือ Red Devil เป็นจำนวนมาก สามารถเชื่อมโยงและดึงดูดกล่มแฟนคลับนับล้าน เป็นโมเดลแรก ๆ ที่ขยายตลาดจริงจังไปทั่วโลก เช่น ธุรกิจบัตรเช่าซื้อผ่อนสินค้า Man U. ร้านขายเสื้อ หมวก ถ้วย พวงกุญแจ เทปการแข่งขันโดยเฉพาะอเมริกาและเอเซีย ในส่วนของอเมริกานั้นก็ไปร่วมดีลกับทีมเบสบอลยักษ์ใหญ่ New York Yankees ในปี 2001 มีการตกลงแบ่งข้อมูลทางการตลาดต่อกัน และยังเป็นสปอนเซอร์ให้กันเพื่อหวังผลทางโฆษณาให้กว้างยิ่งขึ้น

ความสำเร็จเป็นโมเดลให้หลาย ๆ ทีมต้องทำตาม

การบุกตลาดอย่างชาญฉลาดเป็นผลงานของ ปีเตอร์ เคนยอน ประธานบริการคนเก่าของแมนฯยูฯ ทำให้หลาย ๆ ทีมสนใจอยากร่วมงานด้วย จนทำให้ โรมัน อับราโมวิช สนใจทุ่มเงินเพื่อดึงตัวไปบริหารเซลซีเมื่อปี 2004 เพราะหวังจะรวยแบบก้าวกระโดดแบบแมนฯยูฯ นั่นเอง แต่นอกจากความสำเร็จด้านการขยายตลาดต่าง ๆ แล้วนั้น แมนฯยูฯ ยังมีสนามที่ใหญ่ที่สุด สามารถจุคนได้มากในพรีเมียร์ลีกคือสนาม Old Trafford ซึ่งจุคนได้ 76,000 และการขยายสนามในปี 2006 นั้นก็ต่อเติมที่นั่งไปอีก 8,000 ที่นั่ง การพัฒนาสนามฟุตบอลถือว่าเป็นกุลยุทธ์สำคัญ เราจะเห็นข่าวแมนฯยูฯ ต่อเติมสนามแทบทุกปี เพราะรายได้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในสัดส่วนของตั๋วเข้าชมการแข่งขัน มีการเพิ่มที่นั่งหนึ่งในสามให้เป็นที่นั่งระดับ Executive ซึ่งสร้างรายได้มหาศาล จากนั้นก็หันไปให้ความสำคัญกับตัวนักเตะ แมนฯยูฯ เป็นทีมที่มีการจัดวางทีมที่ดี เห็นได้จากความสำเร็จด้วยแชมป์บอลถ้วยยุโรป Cup Winner’s Cup ในปี 1992 และก้าวขึ้นเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในยุคของพ่อมดไรอัน กิ๊ก (Ryan Giggs) และเอริค คอนโตนา (Eric Cantona) สตาร์ฝรั่งเศสที่โด่งดังและมีเสน่ห์ ตามต่อมาถึงยุคของเดวิด เบคแฮม (David Beckham) ที่พาแมนฯยูฯ โด่งดังไปทั่วโลกแบบถล่มทลาย คว้า 3 แชมป์หรือ Tripple Champ ในปี 1999 คือแชมป์พรีเมียร์ลีก แชมป์เอฟเอคัพ และแชมป์ยุโรป ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกในปีเดียว และจนถึงทุกวันนี้แมนฯยูฯ ก็เป็นหนึ่งใน “เต็งแชมป์” ทุกถ้วยและทุกปีกับสตาร์รุ่นใหม่อย่าง เวย์น รูนี่ ย์ และ คริสเตียโน โรนัลโด้